วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สูตรขนมผิง

ส่วนผสม
  1. แป้งมัน 6 ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
  3. หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง
  4. ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 2 ฟอง
  5. เทียนอบ

วิธีทำ

1. นำกะทิไปตั้งบนไฟอ่อน ใส่น้ำตาลลงไป คนจนน้ำตาลละลายดี
2. จากนั้นจึงใส่แป้งลงไปในกะทิ ใส่ทีละน้อย ใส่แล้วคนต่อเนื่องจนแป้งนุ่ม จึงนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ หรือปั้นเป็นรูปทรงตามใจชอบ แล้วจึงนำไปวางบนถาดซึ่งทาน้ำมันไว้บางๆ ปั้นทิ้งไว้ 1 คืนจนแห้ง (อย่าวางชิดกันมาก เนื่องจากเวลานำไปอบขนมอาจขยายและติดกันได้)
3. วันรุ่งขึ้นนำแป้งที่ปั้นไว้ไปอบในเตาประมาณ 15 นาที หรืออบจนส่วนล่างเป็นสีน้ำตาลอ่อน จึงเอาออกมาแซะออก และนำไปอบควันเทียน
4. จัดขนมใส่จานเสริฟ หรือใส่โหล, ภาชนะมิดชิดเก็บไว้ทานภายหลัง

สูตรกล้วยเชื่อม

ส่วนผสม
  1. กล้วยไข่ห่าม 8-10 ผล (ปอกเปลือกและบั้งตามขวาง)
  2. น้ำเปล่า 500 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 400 กรัม
  4. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำกะทิ 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำกะทิราดหน้า)
  6. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา (สำหรับทำน้ำกะทิราดหน้า)

วิธีทำ

1. นำกระทะทองเหลืองไปตั้งบนไฟอ่อน จากนั้นผสมน้ำตาลทราย, น้ำเปล่า และน้ำมะนาวลงไป คนจนส่วนผสม ทุกอย่างเข้ากันดี
2. นำกล้วยที่ปอกแล้วลงไปเชื่อมในกระทะ เชื่อมจนสุกทั่ว โดยสังเกตุว่าผิวกล้วยจะใส ฉ่ำและเป็นเงา จากนั้นตักใส่จานเสริฟเตรียมไว้
3. ทำน้ำราดหน้าโดยผสมน้ำกะทิกับเกลือป่นเข้าด้วยกัน นำไปตั้งบนไฟอ่อนๆสักพัก ระวังอย่าให้กะทิแตกมัน
4. เวลาเสริฟ ราดน้ำกะทิบนกล้วยที่เชื่อมแล้ว สามารถเสริฟได้ทั้งขณะร้อน หรือเย็น

สูตรขนมดอกลำดวน

ส่วนผสม
  1. แป้งสาลีร่อนแล้วตวง 1 ถ้วย
  2. น้ำตาลป่นหรือน้ำตาลไอซิ่ง 1/ 2 ถ้วย
  3. น้ำมันหมูเจียวใหม่ ๆ 1/ 4 ถ้วย (ใช้น้ำมันพืชแทนได้)

วิธีทำ

1. ผสมแป้งสาลี น้ำตาล เข้าด้วยกัน ค่อย ๆ ใส่น้ำมันลงไปทีละน้อย ๆ ผสมให้เข้ากันดี จากนั้นปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3/ 4 นิ้ว แล้วผ่าเป็น 4 ส่วน ทำจนหมด

2. นำแป้ง 3 ชิ้นวางให้ปลายชนกัน วางใสถาดอบที่ไม่ทาไขมัน ที่เหลืออีก 1 ชิ้น ให้ปั้นเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ วางตรงกลางดอกเป็นเกสร ใช้ปลายมีดทำเป็นแฉกเล็ก ๆ

3. นำเข้าอบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ จนสุกเป็นสีขาวนวล นำออกจากเตาอบ ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วแซะออกจากถาดวางบนตะแกรง ปล่อยให้เย็นสนิท แล้วนำไปอบด้วยควันเทียนให้หอม เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท

เทคนิคในการทำขนมดอกลำดวนหรือขนมกลีบลำดวนนั้น เริ่มกันตั้งแต่การผสมแป้งเลย ถ้าอยากจะให้ขนมมีความหอมอร่อย ควรจะใช้น้ำมันหมูเจียวใหม่ ๆ มากกว่าใช้น้ำมันพืช และเวลาผสมแป้งสาลี น้ำตาล และน้ำมันนั้น ควรผสมพอแต่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน ไม่ต้องนวด เพราะถ้านวดแป้งแล้วขนมจะแข็ง ไม่กรอบร่วน เมื่อผสมแป้งเสร็จแล้ว เวลาปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลม ก็ต้องปั้นให้แน่น ถ้าปั้นไม่แน่นเวลาผ่าแล้วจะไม่สวย นอกจากนี้เมื่ออบขนมเสร็จแล้ว จะแซะขนมออกจากถาด ควรจะทำเมื่อขนมเย็นแล้ว เพราะถ้าแซะขนมในขณะที่ขนมยังร้อน ๆ อยู่ กลีบขนมจะแตกออกจากกัน ขนมดอกลำดวนที่ได้ ควรจะมีสีออกขาวนวล ๆ ไม่ใช่สีเหลือง หรือสีน้ำตาล

ขอบคุณที่มา : Horapa.com

สูตรขนมหม้อแกงเผือก

ส่วนผสม
  1. น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง
  2. กะทิ 1 ถ้วยตวงไข่ 1 ถ้วยตวง
  3. เผือกนึ่งยีละเอียด 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำมัน 1/4 ถ้วยตวง
  5. หัวหอมซอย 1/3 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. นำน้ำตาล มาผสมลงในน้ำกะทิ คนให้น้ำตาลละลาย แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง

2. ตีไข่ ใส่ลงในเผือก คนให้เข้ากัน แล้วนำกะทิที่ผสมไว้เทลง แล้วคนเข้าให้เขากันอีกรอบ

3. ตั้งกระทะ เจียวหอมให้พอเหลือง

4. ตักขนมที่ผสมไว้ใส่ถาด เพื่อนำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 350 F จนสังเกตุผิวของขนมเป็นสีเหลืองทอง ซึ่งปรกติจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที

5. นำออกจากเตา โรยหน้าด้วยหอมเจียวก็เป็นอันเสร็จ ขนมหม้อแกงเผือก ของพวกเรา

ขอบคุณที่มา : www.hilunch.com

สูตรวุ้นกะทิ

ส่วนผสม

ส่วนผสมตัววุ้น
  1. วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำเปล่า 5 1/2 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำใบเตย,น้ำกาแฟ หรือสีผสมอาหาร (จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)

ส่วนผสมหน้าวุ้น

  1. วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำมะพร้าว 2 1/2 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
  4. หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วยตวง
  5. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
  7. แม่พิมพ์สำหรับใส่วุ้น (ถ้วยหรือชามเล็กๆ ก็สามารถใช้แทนกันได้)

วิธีทำ

1. ทำตัววุ้นโดย ใส่ผงวุ้นและน้ำเปล่า ลงในกระทะทองเหลืองแล้วนำไปต้มจนผงวุ้นละลาย (หมายเหตุ : สามารถใส่น้ำใบเตยเพื่อทำวุ้นกะทิใบเตยหรือ น้ำกาแฟเพื่อทำวุ้นกะทิกาแฟ หรืออาจใส่ สีผสมอาหารเพื่อให้ได้สีที่ต้องการสำหรับตัววุ้น)
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้ละลายดีจึงหรี่ไฟเบาลง
3. ตักส่วนผสมตัววุ้นลงไปในแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้ โดยหยอดให้ได้ประมาณ 3/4 ของแบบ และปล่อยไว้ให้วุ้นจับตัวพอตึง
4. ระหว่างรอตัววุ้นแข็ง เตรียมทำหน้าวุ้นโดย ใส่ผงวุ้นและน้ำมะพร้าว ลงในกระทะทองเหลืองแล้วนำไปต้มจนผงวุ้นละลาย
5. จากนั้นจึงใส่แป้งข้าวโพด, หัวกะทิ (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง) และ เกลือลงไปในส่วนผสมหน้าวุ้น คนอย่างต่อเนื่องจน ส่วนผสมละลายเข้ากัน
6. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไป คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงนำส่วนผสมของหน้าวุ้นไปหยอดใส่พิมพ์ให้เต็มอย่างปราณีต (พิมพ์ต้องใส่ตัววุ้นก่อน และต้องรอจน ตัววุ้นแข็งพอตึงๆก่อน มิเช่นนั้นตัววุ้นและหน้าวุ้นจะผสมกัน)
7. เมื่อหน้าวุ้นและตัววุ้นแข็งดีแล้วก็ให้เคาะออกจากแบบ จัดใส่จานและเสริฟได้ทันที

ขอบคุณที่มา : ezythaicooking.com

สูตรขนมกล้วยทอด

ส่วนผสม
  1. กล้วยน้ำว้าห่าม 1 หวี
  2. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  3. แป้งสาลี 1/4 ถ้วย
  4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  5. ผงฟู 1 ช้อนชา
  6. งาขาวคั่ว (ปริมาณตามความชอบ)
  7. มะพร้าวขูดขาว 1/2 ถ้วย
  8. น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วยตวง
  9. หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
  10. น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย
  11. ใบเตย 3-5 ใบ
  12. น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ

1. นำกล้วยมาปอกเปลือกและหั่นตามยาวเป็นชิ้นบางๆ หนึ่งลูกควรหั่นให้ได้อย่างน้อย 3 ชิ้น
2. นำแป้งข้าวเจ้า, แป้งสาลี, เกลือ, ผงฟู, น้ำตาลปี๊บ, งาขาว, มะพร้าวขูด, น้ำปูนใสและหัวกะทิ ผสมเข้าด้วยกันในชามขนาดใหญ๋ คนจนแป้งและน้ำตาลละลายดี ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. ใส่น้ำมันลงในกระทะ และนำไปตั้งบนไฟค่อนข้างแรง รอจนน้ำมันเดือด จึงใส่ใบเตยลงไปทอดก่อนให้น้ำมันหอม
4. นำกล้วยที่หั่นเตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่งชุบแป้งแล้วนำไปลงทอดจนเหลืองสุกและกรอบ จึงตักออกมาสะเด็ดน้ำมัน
5. เรียงจัดใส่จาน และเสริฟเป็นของว่างทานเล่น

ขอบคุณที่มา : ezythaicooking.com

สูตรขนมครก

ส่วนผสม

ส่วนผสมทำตัวแป้ง
  1. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
  2. ข้าวสุก 1/2 ถ้วยตวง
  3. น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง
  4. มะพร้าวขูด 1/2 ถ้วยตวง
  5. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  6. มันหมูห่อผ้าขาว (เช็ดหลุมเตาก่อนหยอดตัวแป้ง, อาจใช้น้ำมันพืชแทนได้)
  7. ต้นหอมซอย, เมล็ดข้าวโพด, เผือก, ฟักทอง (สำหรับโรยหน้าขนมครก)

ส่วนผสมทำกะทิหยอดหน้า

  1. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
  3. เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ทำตัวแป้งก่อน โดยเอาข้าวสารซาวให้สะอาด ผสมกับข้าวสุก, แป้งข้าวเจ้า, มะพร้าว และเกลือ ใส่กาละมังพักไว้
2. ต้มน้ำให้เดือด แล้วเอามาผสมในกาละมังที่ใส่ส่วนผสมไว้ ใช้ไม้พายคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันทั่ว
3. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาไปโม่ก็จะได้แป้งขนมครกตามต้องการ
4. ทำกะทิหยอดหน้าโดยผสมหัวกะทิ, น้ำตาลทรายและเกลือป่นเข้าด้วยกัน เสร็จแล้วพักไว้
5. วิธีทำ นำกระทะหลุมที่เตรียมไว้ตั้งไฟจนร้อนได้ที่ จึงเช็ดหลุมด้วยน้ำมันจากนั้นจึงหยอดแป้งลงไป (อย่าหยอดจนเต็ม เพราะต้องหยอดหน้ากะทิภายหลัง) ปิดฟาทิ้งไว้จวนสุกจึงเปิดฝาออกและหยอดด้วยหน้ากะทิที่เตรียมไว้ ถ้ามีต้นหอมหรืออย่างอื่นเพิ่มเติมก็โรยลงบนหน้ากะทิ ปิดฝารอสักพักจนสุกจึงแคะออก ควรทานขณะร้อนจะรสชาตดีกว่าทิ้งไว้จนเย็น

ขอบคุณที่มา : ezythaicooking.com